แนะ"เคล็ดลับ"จับมือถือปลอม
การระบาดของโทรศัพท์มือถือ "ปลอม" กำลังกลายเป็นปัญหา "ใหม่" ของผู้ค้ามือถือแบรนด์ดัง หลังจากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพิ่งลงตัวกับการจัดระเบียบร้านค้าปลีกและตัวแทนจำหน่าย จนสามารถยุติสงครามตัดราคา และกำราบตลาดเครื่องหิ้ว (เกรย์ มาร์เก็ต) ด้วยกลยุทธ์ที่เหนือชั้นกว่า ทั้งด้านเพิ่มความหลากหลายของราคา และดีไซน์ ตลอดจนอัดฉีดงานด้านบริหารหลังการขายเต็มที่กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ล่าสุด โนเกีย มือถือที่มียอดขายอันดับ 1 ทั้งในไทยและตลาดโลก ซึ่งกำลังเผชิญศึก "มือถือปลอม" ที่แพร่กระจายมาจากโรงงงานแถบประเทศจีน ก็เร่งกิจกรรมให้ความรู้ กับตลาดผู้ใช้มือถือในเมืองไทยอย่างหนัก เพื่อสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ และความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือของแท้ของแท้ VS ของปลอมแปลงรายงานข่าวจากโนเกีย ระบุว่า แม้หลายคนอาจคิดว่าโทรศัพท์มือถือของแท้และของปลอมแปลง หน้าตาเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงของแท้และของปลอม มีความแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการผลิต การรับประกันคุณภาพสินค้า ประสิทธิภาพการใช้งาน และที่สำคัญคือความปลอดภัยในการใช้งาน ที่เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามพร้อมย้ำว่า ของปลอมแปลงที่กำลังระบาดในปัจจุบัน มีทั้งตัวเครื่อง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ สายชาร์จ หูฟัง หูฟังบลูทูธ หน้ากาก แป้นกด มีการผลิตไม่ได้มาตรฐาน มักใช้วัสดุคุณภาพต่ำเพื่อลดต้นทุนการผลิต ทำให้สามารถนำมาขายได้ในราคาถูก ทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานต่ำ และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น กระแสไฟฟ้าลัดวงจร หรือแบตเตอรี่ระเบิดแบตเตอรี่บึ้ม-อันตรายคลื่นมือถือที่ผ่านมา มีตัวอย่างอุบัติเหตุที่เกิดจากแบตเตอรี่ปลอมระเบิดหลายครั้ง จนแม้แต่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกคำเตือนว่า อย่าใช้แบตเตอรี่มือถือปลอม แม้ว่าหน้าตาจะเหมือนกัน แต่คุณภาพนั้นเทียบกันไม่ได้เลย แบตเตอรี่แท้ มีการติดตั้งวงจรป้องกันการลัดวงจรอีกประเด็นสำคัญที่ไม่ควรละเลย คือสัญญาณวิทยุจากโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มาตรฐานจะถูกออกแบบให้รับและส่งสัญญาณวิทยุ ในระดับที่ปลอดภัยกับร่างกาย ซึ่งมีหน่วยวัดที่เรียกว่า SAR ที่ไม่ควรเกิน 2 วัตต์ต่อกิโลกรัมโดยผู้บริโภคสามารถสังเกตข้อความ ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน ซึ่งของปลอมแปลงอาจส่งสัญญาณวิทยุสูงกว่าค่า SAR ตามข้อกำหนด และทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้โนเกีย - แบรนด์ยอดฮิตของปลอมแปลงทั้งนี้ โนเกีย ยอมรับว่า ความนิยมอย่างสูงของแบรนด์ ทำให้เกิดของปลอมแปลงมาหลอกลวงผู้บริโภค และเป็นอันตรายต่อการใช้งาน ดังนั้น ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลรุ่นที่ต้องการซื้อทุกครั้ง หากเป็นรุ่นที่ไม่เคยประกาศเปิดตัว เช่น N97 หรือ N99 นั่นหมายถึงของปลอมแปลงแน่นอนนอกจากนี้ แม้แต่รุ่นที่มีการประกาศเปิดตัว และวางจำหน่ายทั่วไป ก็ควรตรวจสอบว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นมีหน้าตา คุณสมบัติอย่างไร และราคาขายปลีกที่ลงโฆษณาเป็นเท่าไหร่ และควรซื้อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมทุกชนิดจากตัวแทนจำหน่าย ที่ได้รับการรับรองของเท่านั้นเคล็ดลับจับผิดมือถือปลอมพร้อมกันนี้ ได้ให้คำแนะนำถึงการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของแท้ว่า สามารถตรวจจากหมายเลขอีมี่ (IMEI) ที่ระบุอยู่ทั้ง
1. ภายในตัวเครื่อง (เมื่อถอดแบตเตอรี่ออกจะพบตัวเลขบนตัวเครื่อง)
2. ข้างกล่อง และ
3. การเรียกดูจากตัวเครื่องโดยกด *#06# ว่าเป็นหมายเลขเดียวกันหรือไม่ หากเป็นคนละหมายเลขมีความเป็นไปได้ว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นไม่ใช่ของแท้นอกจากนี้ ควรสงสัยไว้ก่อน หากพบความผิดปกติดังนี้ ไม่มีโลโก้สินค้า , เป็นรุ่นที่ไม่เคยมีประกาศวางตลาด, ไม่มีใบรับประกันสินค้า และราคาแตกต่างจากสินค้าของแท้มาก
เจมาร์ท " ย้ำ" ตลาดของแท้ไม่สะเทือน
นายกิตติพงษ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาดและการขาย บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในแง่รีเซลเลอร์ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหามือถือปลอม เนื่องจากเชน สโตร์ขนาดใหญ่จะสั่งซื้อสินค้าโดยตรงจากซัพพลายเออร์ หรือผู้ผลิตอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในเชน สโตร์ที่เชื่อถือได้ก็จะได้รับสินค้าของแท้อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าผลกระทบโดยตรงจะเกิดขึ้นกับ
1. เจ้าของแบรนด์ ซึ่งคงทำได้เพียงตามไล่จับสินค้า หรือผู้จำหน่ายที่จำหน่ายของปลอม และให้ข้อมูลลูกค้าถึงวิธีแยกแยะของจริง-ปลอมให้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
2. ลูกค้า เพราะนอกจากการเลือกซื้อสินค้าที่มั่นใจได้แล้ว ยังต้องหาข้อมูลจากเวบไซต์ของแบรนด์นั้นๆ ว่า ประเทศไทยไม่เคยจำหน่ายสินค้ารุ่นที่ไม่มีจำหน่ายในเวบไซต์ของบริษัทเจ้าของแบรนด์"ลูกค้าที่ซื้อของปลอมอาจเป็นกลุ่มที่ไม่เข้าถึงข้อมูล มีเพียงความต้องการอยากได้แบรนด์โนเกีย เมื่อเจ้าของร้านเสนอต้องการปล่อยสินค้าราคาถูกก็หลงเชื่อ เพราะฉะนั้นต้องหาข้อมูลก่อนซื้อให้ดี"
กลับไปหน้าแรก
กลับสู่gigclub